ภารกิจ ‘บีเกิล’ แห่งด่านกักกันสัตว์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

Twitter

        จากข้อมูลท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ผ่านมา พบว่า กรณีของผู้โดยสารขาเข้าจะต้องเน้นการตรวจหาซากสัตว์จำพวกเนื้อสัตว์ หรือซากสัตว์อื่น ๆ เป็นหลัก ส่วนกรณีของผู้โดยสารขาออกนั้นจะต้องเน้นไปที่การตรวจหาสัตว์ป่ามีชีวิต เช่น นก เสือ งู เต่า ฯลฯ ซากสัตว์ป่า เช่น งาช้าง กระดูกสัตว์ หนังสัตว์ อุ้งเท้า เครื่องในสัตว์ตากแห้ง ที่มักมีการลักลอบส่งออกไปต่างประเทศ เพื่อปรุงเป็นยาแผนโบราณ โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบตารางเที่ยวบินที่ต้องสงสัยจากท่าอากาศยานและจัดกำลังเข้าปฏิบัติงานเมื่อเที่ยวบินดังกล่าวเดินทางมาถึงหรืออยู่ในช่วงกำลังลำเลียงกระเป๋าขึ้นอากาศยาน หากชุดปฏิบัติงานสุนัขดมกลิ่นตรวจสอบพบสิ่งผิดกฎหมายจะแจ้งให้สัตวแพทย์ประจำด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทราบทันที เพื่อประสานเจ้าหน้าที่ของสายการบินให้เชิญเจ้าของสัมภาระมาพบเจ้าหน้าที่ หากเป็นกรณีที่ของกลางนั้นเกี่ยวข้องหรืออยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น โดยเฉพาะด่านตรวจสินค้าเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้วยกันคือ ด่านตรวจประมง และด่านตรวจพืช สัตวแพทย์จะติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยงานนั้น ๆ เพื่อมาร่วมตรวจสอบสิ่งของสัมภาระ รวมทั้งการแจ้งข้อกล่าวหา

        ด้วยสพญ.ณัฐกานต์ คุรุพันธ์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการ ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกองสารวัตรและกักกัน กรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า สุนัขพันธุ์บีเกิล เป็นสุนัขที่มีขนาดตัวค่อนข้างเล็ก เป็นมิตร ฉลาด แสนรู้ มีจมูกที่ไวต่อการดมกลิ่น สามารถเข้าไปตรวจค้นได้แม้กระทั่งคนที่ค่อนข้างกลัวสุนัข เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพความแม่นยำในการตรวจค้นหาวัตถุสิ่งของต้องสงสัยให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันการลักลอบนำสัตว์และซากสัตว์ที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรคระบาดสัตว์มากับสินค้าสัตว์หรือซากสัตว์ที่เข้ามาภายในประเทศ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ จะส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสุขอนามัยของประชาชนภายในประเทศได้น้อง ๆ บีเกิลของด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กองสารวัตรและกักกัน กรมปศุสัตว์ มีทั้งหมด 14 ตัว จะแบ่งเป็น 3 ทีม โดย 2 ทีมสายสืบจะผลัดกันเช้าและบ่ายทีมละ 4 ตัว ออกตรวจจับกลิ่นโดยใช้การดมกลิ่นกระเป๋านับพันใบต่อวัน ตอนที่เจ้าหน้าที่ตรวจจะตบกระเป๋าเบา ๆ เพื่อช่วยให้นำลมกลิ่นออกมา หากใบไหนที่มีกลิ่นพิรุธเป้าหมาย บีเกิลจะวิ่งตามกระเป๋าบนสายพาน จากนั้นทางทีมสารวัตรจะตรวจกระเป๋าใบที่เป็นเป้าหมาย และให้น้องดมกระเป๋าอีกครั้ง จากนั้นจะนำกระเป๋าลงจากสายพาน และให้บีเกิลอีกตัวมาช่วยรีเช็ก

ถ้าเจอความผิดปกติ บีเกิล จะหมอบนั่งทันที แต่ถ้า 2 ตัวไม่สนใจก็นำกระเป๋ากลับสายพาน “น้อง ๆ บีเกิล” จะมีพี่เลี้ยงคอยดูแลในการออกทำงาน โดยแต่ละตัวจะดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นบัดดี้ และเชื่อฟังคำสั่ง ไม่วอกแวก เนื่องจากแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่คอยชื่นชม และเอ็นดูน้อง ๆ แต่จะไม่ให้สัมผัสใกล้ชิด ที่สำคัญจะมีคุณหมอ มาดูแลสุขภาพให้ทุกเดือน และอาบน้ำให้ทุกอาทิตย์อีกด้วย เรียกว่าสวัสดิการของน้อง ๆ ดีทีเดียว หากใครกลัวว่าจะใช้แรงงานน้อง ๆ มากเกินไปไม่ต้องห่วงกันนะครับ

แหล่งข่าว : DAILYNEWS เดลินิวส์ ออนไลน์